21 มิถุนายน 2553

Baked Spinach with Cheese


"ผักโขมอบชีส" เราทุกคนคงเคยได้ยินกันมาบ้าง ซึ่งเป็นอาหารของชาวอิตาเลียน อันเป็นเมนูยอดนิยมเลยก็ว่าได้ ผักโขม (Spinach)ที่เราเรียกกันอยู่ที่จริงแล้วคือ ผักปวยเล้ง ส่วนชีสที่นำมาทำคือ Mozzarella Cheese ชีสที่เค้านำมาทำพิซซ่ากันนั้นแหละ เนื่องจากชีสชนิดนี้มีความยืดหยุ่นสูง และมีกลิ่นที่หอมนิดๆของนมกับความมันในตัว


ส่วนผสม : (1 คนรับประทาน)
ปวยเล้ง (Spinach)
มอสซาเรลล่า (Mozzarella)..........1 ถ้วย (ขูดให้เป็นเส้นๆ)
เบค่อน (Bacon)..........1 ถ้วย (หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ)
แป้งข้าวโพด (Cornflour)..........1 ช้อนโต๊ะ
นมสด (milk)..........1 กล่อง
พริกไทย (Pepper)..........2 ช้อนชา
เนย (Butter)..........1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียม (Garlic)..........1 หัว (สับละเอียด)
วิปครีม (Whipped cream)..........1 ถ้วย



วิธีทำ :
1.ลวกผักในน้ำเดือดที่ใส่เกลือป่นเล็กน้อย แล้วตักขึ้นแช่ในน้ำเย็นทันที จากนั้นพักให้สะเด็ดน้ำ
2.นำผักที่เตรียมไว้มาสับให้ละเอียด (ยิ่งเละยิ่งดี) จากนั้นนำเบค่อนที่เตรียมไว้ไปทอดให้กรอบ
แล้วสะเด็ดน้ำมันพักไว้
3.ผสมแป้งข้าวโพดกับนมสดขนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว (ไวท์ซอส)
4.ตั้งกระทะให้ร้อนแล้วนำกระเทียมกับเนยลงไปผัดรอให้เนยละลายก่อน แล้วจึงเทไวท์ซอสลงไป
คนไปเรื่อยๆ แล้วรอให้เดือดจากนั้นจึงนำวิปครีมผสมลงไป (ไฟอ่อนๆ)
5.นำโปยเล้งที่สับละเอียดดีแล้วลงไปผัดปรุงรสด้วยพริกไทย ผัดไปจนกว่าจะเข้ากันดีแล้วจึงเทเบค่อน
ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน
6.ตักใสพิมพ์ที่เตรียมไว้ แล้วโรยด้วยชีสที่ขูดเป็นเส้นๆลงให้ทั่ว นำไปเข้าไมโครเวฟ เลือกใช้ไฟ 100-200
องศา อบเป็นเวลา 4-7 นาที
**(ขนาดไฟของไมโครเวฟนั้นไม่เท่ากัน แนะนำให้อบเป็นช่วงๆ)**

^_^".......Thank You.

20 มิถุนายน 2553

Cheese [ชีส] ต่อ




เนยแข็งมีมากกว่า 3,000 ชนิดทั่วโลก ดังนั้นเกณฑ์การแบ่งประเภทและชนิดของเนยแข็งจึงมีความหลากหลาย เนยแข็งบางประเภทแม้จะมีลักษณะเหมือนกันทุกประเภทแต่ก็มีชื่อเรียกต่างกันตามแต่ละท้องถิ่น วิธีการจำแนกประเภทของเนยแข็งจึงทำได้โดยอาศัยหลักเกณฑ์บางอย่าง เช่น ชนิดของน้ำนมที่ใช้ ระยะเวลาในการบ่ม เชื้อราที่ใส่ลงไปเพื่อแยกไขมันออกจากน้ำนม อุณหภูมิที่ใช้ในการหมักบ่ม พื้นผิวและความราบเรียบของเนยแข็ง ดังนั้นเนยแข็งจึงสามารถแยกออกเป็นสี่ประเภทใหญ่ดังนี้

"เนยแข็งประเภท Fresh Cheese"
เนยแข็งประเภท Fresh Cheese คือ เนยแข็งที่ไม่ต้องผ่านความร้อนและไม่ต้องหมักบ่ม มีกลิ่นและรสไม่จัด ออกรสเปรี้ยวอ่อนๆ เนื้อในนิ่มเป็นครีม มีความชื้นสูง เช่น Cream Cheese, Feta, Mozzarella, Ricotta, Cottage Cheese, Mascarpone

"เนยแข็งประเภท Soft-White Cheese"
เนยแข็งประเภท Soft-White Cheese คือ เนยแข็งที่ทำจากนมที่มีความเข้มข้นของครีมสูง เนื้อในจึงมีลักษณะเป็นครีมแข็ง ผิวนอกจะค่อนข้างบางเมื่อทานแล้วจะค่อยๆละลายในปากมีความชื้นน้อยกว่าเนยแข็งประเภท Fresh Cheese และจะต้องผ่านกระบวนการบ่มด้วยราสีขาวก่อนนำมาบริโภค เช่น Brie, Camembert, Neufchatel

"เนยแข็งประเภท Natural-Rind Cheese"
เนยแข็งประเภท Natural-Rind Cheese คือ เนยแข็งที่ทำจากนมแพะตามแบบฝรั่งเศส มีพัฒนาการมาจากเนยแข็งประเภท Fresh Cheese แต่จะต้องผ่านการขับน้ำทิ้งมากกว่าจึงมีความชื้นน้อยกว่า หลังจากการบ่มเนยแข็งประเภทนี้จะมีรอยย่นพื้นบนผิวรอบนอกมาก มีรสชาติที่เด่นขึ้นด้วย เนยแข็งประเภทนี้จะบ่มด้วยราสีฟ้าค่อนข้างเทา มีจุดสีน้ำเงินออกน้ำตาลที่ผิวเนยแข็ง และเมื่อมีอายุมากขึ้นก็จะมีกลิ่นแรงขึ้นด้วย เช่น Crottin de Chavignol, Sainte-Maure de Touraine

"เนยแข็งประเภท Wash-Rind Cheese"
เนยแข็งประเภท Wash-Rind Cheese คือ เนยแข็งผิวนอกมีความเหนียวและมีสีน้ำตาลส้ม ซึ่งเกิดจากการล้างด้วยน้ำเกลือระหว่างการบ่ม มีตั้งแต่กลิ่นหอมจากเครื่องเทศไปจนถึงกลิ่นฉุน เช่น Herve, Limburger, Munster

"เนยแข็งประเภท Hard Cheese"
เนยแข็งประเภท Hard Cheese คือ เนยแข็งที่เกิดจากการนำหางนมออกไปมากจนความชื้นในเนยแข็งเหลือเพียงเล็กน้อย เปลือกเนยแข็งจะหนาเนื้อแข็ง ใช้เวลาบ่มนาน เช่น Cheddar,Emmemtal, Gouda, Pecorino, Romano, Beaufort
-[ขอบคุณข้อมูลจาก]-
http://th.wikipedia.org/wiki/

19 มิถุนายน 2553

Cheese [ชีส]


ผลิตภัณฑ์จากนมซึ่งสามารถผลิตได้จากนมวัวหรือแพะเป็นต้น ผ่านกระบวนการคัดแยกโปรตีน แล้วนำโปรตีนของนมมาทำการผสมเชื้อราหรือแบคทีเรียหรือสารอื่นๆ แตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทของเนยแข็ง ซึ่งแตกต่างจากเนยที่ทำมาจากไขมันของนม

เนยแข็งเป็นอาหารที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน โดยมีปรากฏหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนที่สุดในคัมภีร์ไบเบิลกลุ่มนักรบทหารโรมันเป็นบุคคลผู้มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ให้คนทั่วโลกได้รู้จักเนยแข็ง เพราะไม่ว่าจะยกทัพไปที่ใดก็มักจะนำเนยแข็งไปด้วยเสมอและมักจะแบ่งปันเนยแข็งที่มีให้กับคนท้องถิ่นนั้นๆ โบสถ์จัดว่าเป็นสถานที่เก็บรวบรวมข้อมูลความรู้เกี่ยวกับเนยแข็งที่เด่นชัดที่สุดในสมัยกลาง การจำหน่ายเนยแข็งเพื่อหารายได้เข้าโบสถ์ของบาทหลวงในศาสนาคริสต์ส่งผลให้เกิดเนยแข็งแบบดั้งเดิมที่มีเฉพาะในแต่ละท้องถิ่น และในเวลาต่อมาเนยแข็งท้องถิ่นนี้ได้ถูกพัฒนาปรับปรุงรสชาติให้มีความหลากหลาย จนในปัจจุบันมีเนยแข็งมากกว่า 3,000ชนิด ซึ่งคนไทยมักมีความเข้าใจผิดว่าเนยแข็งและเนยเหลวเป็นอาหารประเภทไขมันเช่นเดียวกัน อันที่จริงแล้วเนยแข็งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากโปรตีนในน้ำนมวัว ในขณะที่เนยเหลวเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากไขมันในน้ำนมวัว ดังนั้นเนยแข็งจึงจัดเป็นอาหารจำพวกโปรตีนเหมือนเนื้อสัตว์ และมีคุณค่าทางโภชนาการไม้แพ้น้ำนมวัว เนยแข็งให้สารอาหารจำพวก แคลเซียม โปรตีน ฟอสฟอรัส วิตามินบี 12 สังกะสี และไขมัน แต่ให้น้ำตาลแลคโตสในปริมาณที่น้อยกว่าในน้ำนม ผู้ที่มีปัญหาในการดื่มนมจึงสามารถหันมารับประทานเนยแข็งแทนเป็นทางออกแทนได้ แม้การรับประทานเนยแข็งจะเป็นวัฒนธรรมของต่างชาติแต่ในปัจจุบันนี้เนยแข็งก็เข้ามามีบทบาทอย่างมากต่อวงการอาหารไทย ดังนั้นเราจึงควรรู้จักเลือกรับประทานเนยแข็งโดยเลือกทานชนิดที่มีไขมันต่ำและบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมก็จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด


.....ครั้งต่อไปจะพาไปทำความรู้จักกับชนิดของ "Cheese" ??